โภชนาการกับโรตมะเร๊ง

  โภชนาการกับโรคมะเร็ง

            จากการศึกษาพบว่า อาหารอาจมีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งได้ประมาณ 30 - 50 เปอร์เซนต์ แต่ในขณะเดียวกัน อาหารประเภทพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และเครื่องเทศต่างๆ ก็มีคุณสมบัติในการป้องกันมะเร็งไดั ดังนั้น การรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ จืงเป็นหนทางหนึ่ง ซึ่งสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้

คำว่า อ้วน ความหมายที่น่าสนใจ ??

สาเหตุของความอ้วนมี 2 สาเหตุเท่านั้นคือ

1  ความอ้วนที่เกิดจากเป็นโรคอ้วน

2  ความอ้วนที่เกิดจากการรับประทานอาหารเกินความจำเป็น เป็นเวลานาน

สรุปการลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ควบคุมอาหาร

ออกกำลังกาย ลดไขมันเก่า และสร้างกล้ามเนื้อ

แต่เราทำได้จริงหรือไม่ !!! ปัญหาของคนอ้วนหรือคนทั่วไป คือไม่สามารถควบคุมอาหารได้เนื่องจากยังต้องมีกิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆมื้อเย็น และยังสนุกกับการรับประทานอาหาร ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่ชอบออกกำลังกาย

กลไกร่างกายดึงพลังงานมาใช้เพื่อช่วยด้านการลดความ อ้วน ได้อย่างไร

• น้ำตาลในเลือด เช่นการดื่มน้ำหวานแล้วสดชื่น เพราะน้ำหวานสามารถเผาผลาญและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและเปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทนได้อย่างรวดเร็ว
• กล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายดึงพลังงานจากกล้ามเนื้อมาใช้ น้ำหนักลดจริงแต่ผิวจะดูเหี่ยวย่น เพราะกลัามเนื้อเป็นแหล่งเผาผลาญเพื่อให้เกิดพลังงาน
• ไขมัน จะถูกดึงเมื่อออกกำลังกาย หรือเมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวัน 

ไขมันสาเหตุของความอ้วน

• เซลล์ไขมันอาศัยอยู่ตามผิวหนัง
• เนื้อเยื้อไขมันทำหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย
• ป้องกันการกระแทรกของอวัยวะของร่างกาย
• เมื่อเซลล์ไขมันเกิดการกระจุกต้วอย่างหนาแน่น(เนื้อเยื่อไขมัน)อัดกันเป็นก้อนใหญ่เกิน จนนูนขึ้นมาเรียกว่าเซลล์ลูไลท์ (ผิวเปลือกส้ม)
• เซลล์ไขมันจะหยุดการแบ่งตัวเมื่ออายุ 2-5 ขวบ " แต่มันจะขยายขนาดแทน " ยกเว้นหากดูดไขมันออก จำนวนจะน้อยลงแต่ขนาดที่ขยายใหญ่ก็ไม่ได้เล็กลง และเซลล์ไขมันที่ยังอยู่ในร่างกายก็พร้อมจะขยายใหญ่เอามากๆได้ทุกเมื่อ
• เซลล์ไขมัมมีจำนวนเท่าเดิมแต่จะอ้วน จะผอมจะปกติ ขึ้นอยู่กับขนาดเซลล์ไขมัน

             การรับประทานอาหารของคนอ้วน มักเกิดจากการที รับประทานอาหารกินความจำเป็น เมื่อร่างกายนำ GLUCOSE ไปเปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างเพืยงพอแล้วส่วนที่เกิน จะเปลี่ยนไปเป็น GLYCOGEN ซึ่งก็คือไขมันสะสมที่ตับ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่ร่างกายสามารถนำมาใช้ได้ ยามที่ร่างกายขาดอาหารและขาดพลังงานเราจึงมักจะเห็นว่า ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกิน มักมีไขมันสะสมที่ตับด้วย หากมีจำนวนมากจะเป็นโรดที่เรียกว่า ไขมันพอกตับ แต่ตับเองก็ไม่สามารถรองรับไขมันมาสะสมได้หมด ในสวนที่เหลือจึงเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมตามเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ( ไขมันพอกตับ  =  มะเร็งตับ )

     คุณเคยมีประสบการณ์แบบนี้หรือไม่  พอเริ่มลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารทำให้น้ำหนักตัวลดลงไป 5-6 กิโลกรัม แต่ไม่กี่เดือนต่อมาก็พบว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเท่าเดิมหรือมากกว่าเดิม แล้วเราก็เริ่มลดน้ำหน้กด้วยการอดอาหารอีกครั้ง ทำแบบนี้ซ้ำ

 หลายคนคิดว่าวิธีนี้เป็นการลดความอ้วนอย่างได้ผลและง่ายที่สุด แต่ทราบหรือไม่ว่าอันตรายของการอดอาหาร เพราะเมื่อเราอดอาหารก็จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ที่จะนำไปใช้สร้างสารสื่อประสาท ภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมน เม็ดเลือด น้ำย่อย เนื้อเยื่อ กล้าเนื้อ ผิวหนัง เล็บ ผม และอีกมากมาย เมื่อสารอาหารไม่พอใช้ร่างกายก็จะดึงโปรตีนจากเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อออกมาใช้ ทำให้มวลกล้าเนื้อหายไปและเมื่อกล้ามเนื้อหายไปก็ทำให้ตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงานลดลงด้วย นอกจากนั้นการอดอาหารก็ยังมีข้อเสียอีกมากดังนี้

     1 หน้ามืดเป็นลมง่าย เมื่ออดอาหารร่างกายของเราก็จะไม่มีพลังงานไปใช้ในการดำรงชีวิต  ถ้าไม่ทานข้าวแล้วจะเอาแรงที่ไหนมาเดิน มาทำงาน เมื่ออดบ่อยๆ ก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ จึงเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ง่าย

     2  ร่างกายโทรม ผิวพรรณไม่สดใส ผิวหนังเหี่ยว เมื่อเราอดอาหาร น้ำหนักก็ลดลงเร็วอย่างฮวบฮาบ ก็เหมือนลูกโปร่ง เป่าให้ตึงอยู่ดีๆก็รีบปล่อยลมออกด้วยความเร็ว ผิวลูกโปร่งจากเต่งตึงก็กลายเป็นเหี่ยวย่นเหมือนผิวหนังของเรา นั่นเพราะเมื่อเราลดความอ้วน ร่างกายก็เตรียมปร้บไว้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ถ้าเราลดเร็วเกินไปจะไม่มีสารอาหารไปสร้างกล้ามเนื้อ แถมไขมันบางส่วนก็หายไปด้วย ทำให้เกิดการเหี่ยวของกล้ามเนื้อ

     3  อัตราการเผาผลาญผลังงานในร่างกายลดน้อยลง

     4  อัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจขาดเลือดเพิ่มสูงขึ้น

     5 มีปัญหากับระบบขับถ่าย ถ้าไม่รับประทานอาหาร กระเพาะก็ไม่มีอาหารให้ย่อย แล้วจะมีอะไรไปอยู่ในลำไส้ใหญ่ได้อย่างไร ดังนั้นเมื่อเราทานน้อยเกินไปก็จะมีอาการท้องผูก บางครั้งก็ท้องเสียสลับไปมา ทำให้รางกายเสียสมดุลได้